วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

อันตรายจากการใช้ Copy+Paste

               บางคนที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านเว็บบราวเซอร์ของ IE อาจไม่รู้ถึงอันตรายจากการใช้ Copy+Paste ดังนั้นเรามาระวังไว้

               คนส่วนมากคงเคยชิดกับการใช้คีย์ลัดบนแป้นคีย์บอร์ดของเราเป็นส่วนหนึ่งที่ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการทำงานต่างๆของเราได้มาก แต่ในบางกรณี ความสะดวกสบายเหล่านี้กลับต้องแลกมาด้วยความไม่ปลอดภัย

                ขอแนะนำว่า อย่าใช้การ Copy & Paste กับข้อมูลที่มีความสำคัญ เช่น หมายเลขบัตรเครดิต รหัสผ่านต่าง ๆ etc. เพราะการใช้ Ctrl+C หรือ Copy จะมีการเก็บค่าไว้ใน Clipboard ของ Windows ซึ่งสามารถถูกอ่านผ่าน Web site ได้ด้วย Javascript + ASP ซึ่งโค๊ดพวกนี้มีแจกกันให้เกลือนพูดง่าย ๆ คือ ไม่ต้องมีความรู้ด้านโปรแกรม ก็เอาข้อมูลเราไปได้แล้วแค่รู้ขั้นตอนการใช้งานก็พอ     ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่โดนแฮ็คข้อมูลต่าง ๆ กัน ไป

                ลอง copy text อะไรก็ได้บนเครื่องแล้วเปิด URL ต่อไปดูนี้
http://www.friendlycanadian.com/applications/clipboard.htm 
หากเว็บนี้แสดงข้อความบนคลิปบอร์ดที่เราก๊อปปี้ไว้ แสดงว่าคุณยังไม่ได้ป้องกันครับ มันเป็นสคริปทดสอบนะครับ

                มาดูวิธีการป้องกันครับ            
         
                      1. เปิด Internet Explorer ขึ้นมา, ไปยังเมนู Tools -> Internet Options -> Security






                      2. Click ที่ปุ่ม Custom Level






                      3. เปิดไปที่ Tab ที่ชื่อว่า security แล้วตั้งค่าโดยกดปุ่ม Custom Level. แล้วหาคำว่า Allow Paste Operations via Script จากนั้นเลือกที่ Disable เพื่อป้องกันการถูกล้วงข้อมูลจากคลิปบอร์ดของท่าน


5 เหตุผล ทำไมนักพัฒนาเลือก Android

Android เป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมมือถือที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความแกร่งที่ถูกฟูมฟักโดย Google และการซัพพอร์ตของผู้ผลิตมือถือ-สมาร์ทโฟน ทำให้นักพัฒนาสามารถเรียนรู้เทคนิคการพัฒนาโปรแกรมสำหรับ Android และนำไปสร้างเป็นธุรกิจได้ในอนาคต


IBM บริษัทที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดีได้ทำการวิจัยในหมู่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพัฒนาแพลตฟอร์ม จากกลุ่มตัวอย่าง Developer มืออาชีพ 4,000 คน โดยมี 5 เหตุที่พวกเขาเลือก Android ว่า
1. หากคุณเป็นผู้มีความรู้พื้นฐานของการเขียนโปรแกรม คุณสามารถนำแนวคิดของคุณมาประยุกต์ใช้เพื่อเขียนแอพพลิเคชั่น Android ได้

            2. เครื่องมือ แพลตฟอร์ม เฟรมเวิร์ก ต่าง ๆ เป็นทรัพยากรของการสร้างแอพพลิเคชั่นที่สามารถหาใช้ได้แบบฟรี ๆ

            3. จำนวนที่เพิ่มขึ้นของอุปกรณ์ที่สามารถรองรับกับแพลตฟอร์ม Android

           4. ตลาดของ Android ที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหาจุดอิ่มตัวได้ยาก

           5. การเป็นโปรแกรมเมอร์ทางด้าน Android ยังช่วยส่งเสริมให้การหางานนั้นง่ายยิ่งขึ้น บวกกับกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากของตลาดแอพพลิเคชั่น

เชื่อมั่นว่าจากวันนี้และต่อไปในอนาคต จะมีผู้ใช้ Android เพิ่มมากขึ้น อุปกรณ์ในชีวิตประจำวันต่าง ๆ จะถูกประยุกต์เข้ากับระบบ Android แทนที่จะเป็นในมือถือเพียงอย่างเดียว แอพพลิเคชั่นบนแพลตฟอร์มหุ่นตัวเขียวจะได้รับการพัฒนาให้มีความหลากหลาย ที่สำคัญ Application Developer จะยิ่งเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นด้วยเช่นกัน

5 วิธีบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ของแผนก IT

คนทำงานในทุกวันนี้ แทบจะไม่สามารถทำงานได้เลย หากเครื่องคอมพิวเตอร์เกิดปัญหาใช้การไม่ได้ เนื่องจากเราต้องใช้ไฟล์


ข้อมูลต่าง ๆ ในคอมพิวเตอร์ในการทำงาน หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต รวมถึงติดต่อกับบุคคลอื่น ๆ ผ่านทางอีเมล หรือโปรแกรมแชท เพราะเหตุนี้ งาน IT support จึงมีความสำคัญในการบำรุงรักษาเครื่องคอมคอมพิวเตอร์ของบริษัทให้ทำงานได้อย่างราบรื่นเพื่อให้พนักงาน    ทุกคนสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนี้


             1. กำหนดให้การติดตั้งซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ต้องดำเนินการโดยแผนก IT เท่านั้น ไม่อนุญาตให้ติดตั้ง หรือปรับปรุงโปรแกรมด้วยตนเอง เนื่องจากเครื่องอาจติดไวรัส และอาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอื่น ๆ บางบริษัทป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์โดยล็อควันที่ปรับปรุงเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้พนักงานสามารถอัปเดตโปรแกรมเองได้หลังจากวันที่ IT ปรับปรุงซอฟต์แวร์แล้ว

                   2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องติดตั้งซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เท่านั้น เพื่อให้เกิดความถูกต้องและไม่ต้องเป็นกังวลกับการถูกฟ้องร้อง หรือเกิดปัญหากับการติดตั้ง และใช้โปรแกรมที่ไม่มีลิขสิทธิ์

                       3. ติดตั้งซอฟต์แวร์ในเวอร์ชั่นที่เหมาะสมกับรุ่นของคอมพิวเตอร์ ช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างราบรื่น และการอัปเดตหรือแก้ไขทางเทคนิคต่าง ๆ สามารถทำได้โดยง่าย
                        
                         4. ติดตั้งซอฟต์แวร์ให้เหมาะกับลักษณะงานของพนักงานแต่ละคน บางคนอาจต้องเพิ่มโปรแกรมเฉพาะของแต่ละสายงาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่วนบางคนที่ไม่ได้ใช้งานบางโปรแกรมก็ไม่จำเป็นต้องติดตั้ง จะได้ไม่สิ้นเปลืองหน่วยความจำ และเครื่องทำงานเร็วขึ้นด้วย
                   
                       5. ป้องกันความเสี่ยงต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในบริษัทของคุณด้วยการไม่ดาวน์ โหลดโปรแกรมจาก   เว็บไซต์ที่คุณไม่ไว้ใจ รวมทั้ง ระวังอีเมลที่น่าสงสัย หรือมีข้อความผิดปกติ ซึ่งอาจมีไวรัสติดมาจากการดาวน์โหลดไฟล์ในอีเมลที่คุณไม่รู้จัก
               แผนกไอที จึงต้องดูแลการติดตั้งและการใช้งานคอมพิวเตอร์ของพนักงานอย่างถูกวิธี รวมทั้งการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้พบความผิดปกติได้ทั้นท่วงที และสามารถแก้ไขคอมพิวเตอร์ตัวเก่งใช้งานได้นาน โดยไม่เกิดปัญหาน่ารำคาญใจกับผู้ใช้เนื่องจากโปรแกรมต่าง ๆ ทำงานไม่สัมพันธ์กับสภาพเครื่อง หรือเครื่องอืด แฮงก์บ่อยเพราะถูกไวรัสตัวร้ายก่อกวน

F1 ถึง F12 รู้ไหมว่ามันทำอะไรได้บ้าง?

               คีย์ที่กล่าวมาส่วนมากเราจะเรียกมันว่า "ฟังก์ชันคีย์"  F1 ถึง F12 อาจมีความหลากหลายของการใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งและโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่เปิดอยู่ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการของแต่ละคีย์เหล่านี้


               ยังรวมถึงการใช้งานฟังก์ชันคีย์รวมดับคีย์ ALT หรือ Ctrl เช่นผู้ใช้ Microsoft Windows สามารถกด Alt + F4 เพื่อปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่
               ด้านล่างเป็นรายการบางส่วนของการทำงานของคีย์ฟังก์ชั่นในคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Microsoft Windows แต่จะไม่ใช่ทุกโปรแกรมที่สนับสนุนฟังก์ชันคีย์

 

F1     มักจะใช้เป็นคีย์ช่วยเกือบทุกโปรแกรมจะเปิดหน้าจอ
          ป้อนการตั้งค่า CMOS
          Windows Key + F1 จะเปิดตัวช่วยของ Microsoft Windows
          เปิดบานหน้าต่างงาน

F2     ใน Windows จะใช้ในการเปลี่ยนชื่อไอคอนหรือไฟล์
           Alt + Ctrl + F2 เปิดเอกสารใหม่ในโปรแกรม Microsoft Word .
          Ctrl + F2 จะแสดงหน้าต่างตัวอย่างก่อนพิมพ์ใน Microsoft Word
          เข้าสู่การป้อนการตั้งค่า CMOS หรือ Bios

F3      เปิดคุณลักษณะการค้นหาในหลายๆโปรแกรมรวมถึง Microsoft Windows
          ใน MS - DOS หรือ Windows ของบรรทัดคำสั่ง F3 จะทำซ้ำคำสั่งสุดท้าย
          Shift + F3 จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อความใน Microsoft Word

F4     เปิดพบหน้าต่าง
         ทำซ้ำการกระทำล่าสุด ( Word 2000 ขึ้นไป )
         Alt + F4 จะปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ใน Microsoft Windows
         Ctrl + F4 จะปิดหน้าต่างที่เปิดอยู่ในหน้าต่างที่ใช้งานในปัจจุบันใน Microsoft Windows

F5     ในทุกเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต F5 จะรีเฟรชหรือโหลดหน้าเว็บหรือหน้าต่างเอกสาร
          เปิดหน้าค้นหา แทนที่ และไปที่หน้าต่างใน Microsoft Word
          เริ่มสไลด์โชว์ใน PowerPoint

F6     ย้ายเคอร์เซอร์ไปที่ Address bar ใน Internet Explorerและ Mozilla Firefox .
         Ctrl + Shift + F6 เปิดไปยังเอกสารอื่น ๆ ใน Microsoft Word

F7     ปกติจะใช้เพื่อตรวจสอบการสะกดและไวยากรณ์ตรวจสอบเอกสารในโปรแกรม Microsoft เช่น                         Microsoft Word, Outlook, ฯลฯ
         Shift + F7 ทำงานตรวจสอบบนคำที่ไฮไลต์
         เปิดการใช้งานเลือนหน้าต่างด้วยปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ดใน Mozilla Firefox

F8     แป้นฟังก์ชันที่ใช้ในการเข้าสู่เมนูเริ่มต้น Windows, นิยมใช้ในการเข้าถึง Windows แบบ Safe Mode

F9     เปิดแถบเครื่องมือวัดใน Quark 5.0

F10     ใน Microsoft Windows เปิดใช้งานแถบเมนูของโปรแกรมที่เปิดอยู่
            Shift + F10 เป็นเช่นเดียวกับการคลิกขวาบนไอคอนที่ไฮไลต์ไฟล์หรือการเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ต
            การเข้าถึงการกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่ ของ HP และ Sony คอมพิวเตอร์
            ป้อนการตั้งค่า CMOS .

F11     โหมดเต็มหน้าจอในเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต
            Ctrl + F11 การเข้าถึง การกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่ในคอมพิวเตอร์ของ Dell
           การเข้าถึงการกู้คืนพาร์ทิชันที่ซ่อนอยู่บน eMachines, Gateway, และคอมพิวเตอร์ Lenovo

F12     เปิดหน้าที่ทำการบันทึกใน Microsoft Word
            Shift + F12 บันทึกเอกสาร Microsoft Word

            Ctrl + Shift + F12 พิมพ์เอกสารใน Microsoft Word

บทความ : อนาคตของคอมพิวเตอร์ - คอมพิวเตอร์ที่มองไม่เห็น


               ในช่วงปี ค.ศ. 2000 เทอมสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ผมได้ลงทะเบียนเรียนในวิชา " อนาคตของคอมพิวเตอร์ " (Future of Computers) ที่สอนโดย ดร. คาเรน ไพรท (Dr. Karen Price) โดยได้มอบหมายให้นักศึกษาอ่านหนังสือประกอบเป็นจำนวนมาก แต่หนังสือเล่มหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ผมคิดถึงอนาคตของคอมพิวเตอร์เป็นอย่างยิ่ง คือหนังสือของ โดนัล นอร์แมน (Donald Norman) ชื่อว่า "The Invisible Computer: Why Good Products can Fail, the Personal Computer is So Complex, and Information Appliances are the Solutions" หรือ "คอมพิวเตอร์ที่มองไม่เห็น" ถึงแม้เนื้อหาของหนังสือเล่มดังกล่าวจะน่าสนใจและมีเหตุมีผล แต่ยากนักที่จะเชื่อว่าคอมพิวเตอร์จะเข้าสู่ยุค "ที่มองไม่เห็น" ในเวลาอันใกล้ เมื่อมองจากช่วงเวลาที่พัฒนาการด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีการเจริญเติบโตเร็วที่สุด

             เมื่อมองเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในช่วงปี ค.ศ. 2000 พบว่า คอมพิวเตอร์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ มนุษย์เปิดกว้างที่จะเข้าใจและยอมเดินตามเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์อย่างไร้การต่อรอง ศัพท์เทคนิคทางด้านคอมพิวเตอร์หลายคำกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาทั่วไป บุคคลหรือนักธุรกิจทิ้งคอมพิวเตอร์เก่าเพื่อแลกมาซึ่งคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ในเวลาไม่กี่เดือนเพื่อให้ทันเทคโนโลยี ทั้ง ๆ ที่คอมพิวเตอร์เครื่องเก่านั้นเองก็สามารถใช้ทำงานที่ต้องการได้เป็นอย่างดี ตู้ประมวลผล (CPU) และ จอแสดงผล (Monitors) มีให้เห็นอยู่ทุกที่อย่างช่วยไม่ได้โดยไม่มีใครคำนึงถึงความสวยงามของสถานที่มากนัก สิ่งที่กล่าวมาคือสัญญานของการปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีในรูปแบบ "Technology Driven" หรือ การที่เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนพัฒนาการ ซึ่งเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว ถือว่าเป็นการขับเคลื่อนที่รวดเร็ว มากมาย และเป็นที่ยอมรับอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ จะมีใครเชื่อว่าในอนาคตอีกไม่กี่ปีต่อมาคอมพิวเตอร์จะค่อยๆเปลี่ยนจาก "Technology Driven" มาเป็น "Consumer Driven" ดังเช่นปัจจุบัน

             โลกปัจจุบันปี ค.ศ. 2012 หรือ พ.ศ. 2555 ช่วงเวลาที่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เราเคยรู้จักมีให้เห็นน้อยลง แต่แทนที่ด้วยอุปกรณ์ใหม่ที่เน้นความสวยงามและเหมาะกับสภาพแวดล้อม การสนทนาที่เคยเน้นประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ถูกแทนที่ด้วยการพูดคุยเกี่ยวกับการต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ตและการใช้งานเฉพาะด้าน งานที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นส่วนที่จัดการก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของความสามารถที่เพิ่มขึ้นของอุปกรณ์อื่นๆ (เช่นการจัดการสื่อเสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ที่ปัจจุบันเป็นมาตรฐานของเครื่องเสียงรถยนต์ เราควรเปลี่ยนจากการเรียก "เครื่องเสียง" เป็น "ระบบจัดการสื่อในรถยนต์" จะเหมาะกว่าไหม) และดูเหมือนสมาร์ทโฟน (Smart Phone) และแท็บเล็ต(Tablet) จะเริ่มเข้ามาแทนความสำคัญของคอมพิวเตอร์ที่เราเคยรู้จัก เมื่อเทคโนโลยีการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านทางอากาศดังเช่นเทคโนโลยีที่เรียกว่า "Cloud Computing" หรือ "เครือข่ายข้อมูลกลุ่มเมฆ" ได้ถูกพัฒนาอย่างเต็มที่ คอมพิวเตอร์ที่เคยเป็นสิ่งที่จับต้องได้ก็จะกลายเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ในทันที ผมคาดว่าเราจะเห็นคอมพิวเตอร์ที่เราคุ้นเคยแต่ในอดีตน้อยลงจนแทบจะไม่เห็นอีกเลย ในยุคนี้ มนุษย์ไม่ได้เดินตามการพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ดังที่ผ่านมาอีกต่อไป แต่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังปรับตัวเองตามความต้องการของมนุษย์ สมาร์ทโฟนอาจไม่สามารถทำงานได้หลากหลายเท่าคอมพิวเตอร์ในอดีต แต่ก็สามารถทำงานได้เพียงพอสำหรับความต้องการของมนุษย์และง่ายต่อการใช้งาน เพราะการใช้งานจะถูกจำกัดให้ใช้งานเฉพาะทาง ดูเหมือนในที่สุดพัฒนาการทางเทคโนโลยีจะต้องเปิดทางให้ความต้องการที่แท้จริงของมนุษย์ที่ต้องการสิ่งที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้ง่ายไม่ว่าจะมองเห็นเป็นตัวตนหรือไม่ และดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่เรียกว่า "คอมพิวเตอร์ที่มองไม่เห็น (Invisible Computer)" นั้น ได้เกิดขึ้นจริงตามที่ นอร์แมน ระบุไว้ในหนังสือแล้ว